การแข่งขันพรีเมียร์ลีกระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซนอล ที่สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2025 จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของเจ้าบ้าน 0-2 ซึ่งถือเป็นการแพ้คาบ้านเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกันของ “จิ้งจอกสยาม” ในฤดูกาลนี้ แม้เลสเตอร์ ซิตี้ จะพยายามสู้เต็มที่ แต่กลับไม่สามารถเจาะแนวรับของอาร์เซนอลได้ และยังมีปัญหาเรื่องเกมรับที่ทำให้เสียประตูในช่วงท้ายเกม บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงแผนการเล่นของทั้งสองทีม ปัญหาที่เกิดขึ้น และจุดอ่อนที่เลสเตอร์ต้องแก้ไข หากต้องการกลับมาอยู่ในเส้นทางที่ดีอีกครั้ง

เลสเตอร์ ซิตี้ ปะทะ อาร์เซน่อล
แผนการเล่นของ เลสเตอร์ ซิตี้
เลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน เซเยส เลือกใช้แผน 4-2-3-1 ซึ่งเป็นระบบที่ทีมใช้มาตลอดฤดูกาล โดยมีเป้าหมายในการควบคุมแดนกลางและใช้เกมสวนกลับในการโจมตีอาร์เซนอล
ผู้เล่นหลักในเกมนี้:
- ผู้รักษาประตู: แมดส์ เฮอร์มานเซน
- กองหลัง: เว้าท์ ฟาส, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด
- กองกลางตัวรับ: วิลฟรีด เอ็นดิดี้, เจมส์ จัสติน
- แนวรุก: นำโดย เจมี่ วาร์ดี้ เป็นกองหน้าตัวเป้า
แท็กติกของเลสเตอร์ในเกมนี้เน้นการเล่นบอลจากแดนหลังขึ้นมา และพยายามกดดันแดนกลางของอาร์เซนอลด้วยการใช้ เอ็นดิดี้ คอยตัดเกม อย่างไรก็ตาม ทีมยังมีปัญหาในการเปลี่ยนโอกาสเป็นประตู ซึ่งส่งผลให้พวกเขาไร้สกอร์ในบ้านเป็นเกมที่ 5 ติดต่อกัน
ปัญหาของเลสเตอร์ ซิตี้ ในเกมนี้
แม้ว่าแผนการเล่นของเลสเตอร์จะถูกวางมาเพื่อรับมืออาร์เซนอล แต่ปัญหาหลายอย่างทำให้พวกเขาไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของทีมเยือนได้
ปัญหาในการจบสกอร์
เลสเตอร์มีโอกาสทำประตูหลายครั้ง แต่ขาดความเฉียบคม โดยเฉพาะในครึ่งแรก วิลฟรีด เอ็นดิดี้ มีโอกาสยิงตรงตัวผู้รักษาประตูของอาร์เซนอล ทำให้ทีมพลาดโอกาสขึ้นนำ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ส่งผลเสียอย่างมาก
แนวรับที่มีช่องโหว่
แนวรับของเลสเตอร์ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกมที่ มิเกล เมรีโน่ ของอาร์เซนอลสามารถทำได้ 2 ประตู ภายใน 6 นาที ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาเรื่องสมาธิและการตั้งรับที่ไม่เป็นระเบียบ
การรับมือกับเกมสวนกลับของอาร์เซนอล
เลสเตอร์มีปัญหาในการรับมือกับการโจมตีที่รวดเร็วของอาร์เซนอล โดยเฉพาะจากผู้เล่นอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด และ ดีแคลน ไรซ์ ที่คอยควบคุมจังหวะเกมแดนกลาง

การสกัดบอลระหว่างเลสเตอร์ซิตี้กับอาร์เซนอล
จุดอ่อนที่เห็นได้ชัด
จากเกมนี้ จุดอ่อนที่ชัดเจนของเลสเตอร์ ซิตี้ มีดังนี้:
- แนวรับที่ขาดความแข็งแกร่ง – เซ็นเตอร์แบ็คยังมีข้อผิดพลาดในการประกบตัวและการรับมือเกมบุกที่รวดเร็ว
- มิดฟิลด์ที่เสียการครองเกม – เอ็นดิดี้ ไม่สามารถควบคุมจังหวะเกมได้ดีพอ
- เกมรุกที่ไร้ความเฉียบคม – เลสเตอร์ ขาดนักเตะที่สามารถสร้างสรรค์โอกาสและจบสกอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การรับมือกับลูกตั้งเตะ – การเสียประตูจากลูกเตะมุมเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน
สรุป
ความพ่ายแพ้ในเกมนี้เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า เลสเตอร์ ซิตี้ ยังมีปัญหาหลายจุดที่ต้องแก้ไขหากต้องการทำอันดับให้อยู่รอดในพรีเมียร์ลีกต่อไป พวกเขาต้องปรับปรุงเกมรับ ลดข้อผิดพลาดในการครองบอล และพัฒนาเกมรุกให้เฉียบคมขึ้น หากไม่สามารถแก้ไขจุดอ่อนเหล่านี้ได้ การลุ้นอยู่รอดในลีกสูงสุดของอังกฤษอาจเป็นเรื่องที่ยากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับ “จิ้งจอกสยาม”