การแข่งขันพรีเมียร์ลีกที่ผ่านมาระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล เป็นหนึ่งในเกมที่ถูกจับตามองมากที่สุดของฤดูกาล ผลการแข่งขันที่จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของซิตี้ ได้เผยให้เห็นถึงจุดอ่อนและปัญหาสำคัญที่เป๊ป กวาร์ดิโอลา และทีมของเขาจำเป็นต้องแก้ไข หากต้องการรักษาเส้นทางลุ้นแชมป์ต่อไป บทความนี้จะทำการวิเคราะห์แผนการเล่นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปัญหาที่เกิดขึ้น และจุดอ่อนที่อาร์เซน่อลสามารถใช้ประโยชน์ได้ในเกมดังกล่าว

ปฏิกิริยาของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าระหว่างการแข่งขัน
แผนการเล่นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้
เป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังคงใช้แผนการเล่นที่เขาคุ้นเคย คือระบบ 4-3-3 ที่เน้นการครองบอลและการเล่นเชิงรุก โดยมีกองกลางเป็นศูนย์กลางของการสร้างสรรค์เกม ซิตี้พยายามใช้การขึ้นเกมจากแนวรับและการจ่ายบอลสั้นเพื่อคุมจังหวะการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม อาร์เซน่อลสามารถปิดพื้นที่และตัดขาดเส้นทางการส่งบอลของซิตี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้ฟูลแบ็กอินเวอร์เต็ด (Inverted Fullbacks)
- เป๊ปเลือกใช้ฟูลแบ็กขยับเข้ามาเล่นเป็นมิดฟิลด์เสริมเมื่อทีมครองบอล แต่นี่กลับทำให้พื้นที่ริมเส้นว่างเปล่า ซึ่งอาร์เซน่อลสามารถโจมตีสวนกลับได้อย่างรวดเร็ว
การขาดความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย
- แม้แมนฯ ซิตี้ จะมีเปอร์เซ็นต์ครองบอลสูง แต่การสร้างโอกาสทำประตูไม่สามารถทะลุแนวรับของอาร์เซน่อลได้
- เออร์ลิง ฮาแลนด์ ถูกประกบติดและได้รับบอลในพื้นที่อันตรายน้อยมาก ทำให้เกมรุกของซิตี้ขาดความอันตราย
ปัญหาในการเล่นเกมรับ
- การขาด โรดรี้ ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ส่งผลให้แผงกลางของซิตี้อ่อนแอลง
- แนวรับพยายามดันสูงเพื่อลดระยะระหว่างกองกลางและกองหน้า แต่กลับเปิดพื้นที่ด้านหลังให้แนวรุกของอาร์เซน่อลใช้โจมตีสวนกลับ
ปัญหาและจุดอ่อนของทีม
1. การรับมือกับเกมเพรสซิ่งของอาร์เซน่อล
อาร์เซน่อลใช้การเพรสซิ่งสูงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปิดพื้นที่แดนกลาง ทำให้กองกลางของซิตี้ไม่สามารถควบคุมเกมได้เต็มที่ เควิน เดอ บรอยน์ และ ฟิล โฟเด้น ถูกกดดันตลอดเวลา ส่งผลให้จังหวะการสร้างเกมรุกติดขัด
2. จุดอ่อนด้านเกมรับ
แมนฯ ซิตี้เผชิญปัญหาในการรับมือกับความเร็วของแนวรุกอาร์เซน่อล โดยเฉพาะการโจมตีจากริมเส้น การที่แบ็กซ้ายและขวาของแมนฯ ซิตี้ดันขึ้นสูง ทำให้แนวรับเปิดกว้าง อาร์เซน่อลสามารถใช้ลูกสวนกลับ และการเล่นบอลทะลุช่องโจมตีแนวหลังได้บ่อยครั้ง
3. การขาดตัวตัดเกมที่มีประสิทธิภาพ
- การขาดหายไปของ โรดรี้ มีผลกระทบอย่างมากต่อสมดุลของทีม แมนฯ ซิตี้ ขาดผู้เล่นที่สามารถตัดเกมคู่แข่งและช่วยป้องกันแนวรับได้ดี
- คาลวิน ฟิลลิปส์ ที่ได้รับโอกาสลงสนามไม่สามารถแทนที่ได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้แดนกลางของทีมเสียเปรียบ
4. การขาดแผนสำรองในการเปลี่ยนเกม
เป๊ป กวาร์ดิโอลา ขึ้นชื่อในเรื่องการวางแท็คติกที่ละเอียดและซับซ้อน แต่ในเกมนี้ เมื่อแผนหลักของเขาถูกปิดตาย แมนฯ ซิตี้ กลับไม่มีแผนสำรองที่ชัดเจนเพื่อปรับเปลี่ยนสถานการณ์ การเปลี่ยนตัวผู้เล่นไม่สามารถเปลี่ยนโฉมเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โรดรี้ ได้รับบาดเจ็บที่เข่าจากฤดูกาลที่แล้ว
สรุปบทเรียนจากความพ่ายแพ้
การพ่ายแพ้ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อ อาร์เซน่อล เป็นเครื่องเตือนใจว่าทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลา แม้จะเป็นทีมที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพสูง แต่ก็ยังมีจุดอ่อนที่สามารถถูกโจมตีได้ หากต้องการรักษาตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้จำเป็นต้องปรับปรุงเกมรับให้แข็งแกร่งขึ้น
โดยเฉพาะการรับมือกับการโจมตีสวนกลับ หาวิธีเจาะแนวรับที่แข็งแกร่งของคู่แข่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พัฒนาความยืดหยุ่นของทีมในการปรับแท็คติกระหว่างเกม เสริมทัพในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ เพื่อเพิ่มความสมดุลในแดนกลาง
หากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากเกมนี้ได้ พวกเขายังคงเป็นหนึ่งในทีมเต็งสำหรับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แต่หากไม่สามารถปรับตัวได้ คู่แข่งอย่างอาร์เซน่อล หรือ ลิเวอร์พูล อาจจะเป็นฝ่ายฉกฉวยโอกาสและแซงหน้าขึ้นไปแทนที่พวกเขาได้ในที่สุด