การแข่งขันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เรอัล มาดริด ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กำลังเป็นหนึ่งในคู่ปรับที่ดุเดือดและมีประวัติศาสตร์การพบกันที่เข้มข้น ทั้งสองทีมต่างมีผลงานที่ยอดเยี่ยมในเวทียุโรป และทุกครั้งที่พบกัน มักเต็มไปด้วยความเร้าใจ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญของทั้งสองฝ่าย ว่าใครจะเป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบและเข้าใกล้แชมป์มากขึ้น

Erling Haaland vs Kylian Mbappe Champions League

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ vs คีเลียน เอ็มบัปเป้ แชมเปี้ยนส์ลีก

ฟอร์มล่าสุดและแผนการเล่นของทั้งสองทีม

เรอัล มาดริด กำลังอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรง โดยพวกเขาสามารถเก็บชัยชนะได้ถึง 5 นัดติดต่อกันในลาลีกา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทีม อีกทั้งการปรับตัวของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ กำลังทำให้แนวรุกของพวกเขาดูอันตรายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น คาร์โล อันเชล็อตติ วางแผนให้ทีมเน้นการเล่นสวนกลับ โดยใช้ความเร็วของ วินิซิอุส จูเนียร์ และ เอ็มบัปเป้ ในการเจาะแนวรับของแมนซิตี้ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่อาจสร้างความแตกต่างในเกมนี้

ทางด้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นแชมป์เก่า แต่ฤดูกาลนี้ดูเหมือนจะมีปัญหาความไม่แน่นอนอยู่บ้าง พวกเขาแพ้ไปแล้วถึง 3 นัดจาก 8 เกมแรกในรอบแบ่งกลุ่มของ UCL ทำให้แฟนบอลเกิดความกังวล อย่างไรก็ตาม ความหวังของทีมยังคงฝากไว้ที่ เออร์ลิง ฮาลันด์ และ เควิน เดอ บรอยน์ ในการสร้างสรรค์โอกาสทำประตู โดยแผนของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังคงเน้นการครองบอลสูง และใช้การขึ้นเกมทางฝั่งขวาผ่าน ฟิล โฟเดน เพื่อกดดันแนวรับของเรอัล มาดริด

สถิติที่น่าสนใจในการพบกันของทั้งสองทีม

การเผชิญหน้ากันของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เรอัล มาดริด กลายเป็นหนึ่งในคู่แข่งขันที่น่าจับตามองที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งสองทีมเจอกันมาแล้วถึง 12 ครั้ง ในแชมเปียนส์ลีก โดยผลการแข่งขันค่อนข้างสมดุล แต่ละทีมชนะ 4 ครั้ง และเสมอ 4 ครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ

  • 2022/23 แมนซิตี้เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้อย่างขาดลอยด้วยสกอร์รวม 5-1 ในรอบรองชนะเลิศ
  • 2021/22 เรอัล มาดริดเป็นฝ่ายกลับมาคว้าชัยด้วยสกอร์รวม 6-5 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนที่พวกเขาจะคว้าแชมป์ในปีนั้น
  • 2019/20 แมนซิตี้เคยชนะ เรอัล มาดริด ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์รวม 4-2

การพบกันครั้งนี้นับเป็นการดวลกันครั้งที่ 4 ติดต่อกันในรอบน็อกเอาต์ของ UCL ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความดุเดือดและความเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อที่สุดของสองทีมนี้

Manchester City vs Real Madrid UCL match

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ vs เรอัล มาดริด UCL

ปัจจัยสำคัญที่อาจชี้ขาดเกมนี้

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลต่อผลการแข่งขันคือ สภาพความฟิตของนักเตะ เรอัล มาดริดดูเหมือนจะได้เปรียบ เนื่องจากพวกเขาอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม และยังได้เล่นในบ้านที่ ซานติอาโก เบร์นาเบว ซึ่งเป็นสนามที่สร้างแรงกดดันให้กับทีมเยือนได้เสมอ ในขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องเผชิญกับตารางแข่งขันที่แน่น โดยพวกเขายังมีโปรแกรมสำคัญกับ อาร์เซนอลและลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งอาจส่งผลต่อสภาพร่างกายและสมาธิของนักเตะ

อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องจับตาคือ การดวลกันระหว่างกองหน้าทั้งสองทีม ฝั่งเรอัล มาดริดมี คีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง โดยเขายิงไปแล้ว 5 ประตูจาก 5 นัดล่าสุดในลาลีกา ขณะที่ฝั่งแมนซิตี้มี เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่เป็นดาวซัลโวของทีมใน UCL ฤดูกาลนี้ โดยยิงไปแล้ว 6 ประตู เกมนี้อาจขึ้นอยู่กับว่าใครจะสามารถฉวยโอกาสได้ดีกว่ากัน

บทสรุป

การแข่งขันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เรอัล มาดริด ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ครั้งนี้ ถือเป็นการพิสูจน์ว่าทีมใดจะสามารถก้าวไปสู่การเป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้ แมนซิตี้ต้องเผชิญกับความกดดันจากโปรแกรมแข่งขันที่แน่นและปัญหาสภาพความฟิตของนักเตะ ในขณะที่เรอัล มาดริดกำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมและมีความได้เปรียบจากการเล่นในบ้าน

แมตช์นี้จะเป็นการตัดสินว่า แมนซิตี้จะสามารถรักษามาตรฐานแชมป์เก่าไว้ได้หรือไม่ และ เรอัล มาดริดพร้อมหรือยังที่จะทวงคืนบัลลังก์ UCL ทุกสายตาจับจ้องไปที่สนาม ซานติอาโก เบร์นาเบว และนี่จะเป็นอีกหนึ่งศึกตัดสินที่ยิ่งใหญ่ของฟุตบอลยุโรป