เส้นทางสู่ศึกฟุตบอลโลก 2026 เริ่มใกล้ความชัดเจนมากขึ้น หลังหลายชาติยักษ์ใหญ่จากเอเชีย, แอฟริกา และยุโรป ต่างทยอยคว้าสิทธิ์ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้สำเร็จในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแต่ละทีมต่างมีเรื่องราวและสถิติที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

Qatar-national-team-2026

ทีมชาติกาตาร์

ศึกฟุตบอลโลก 2026 ที่จะจัดขึ้นใน สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโก ถือเป็นครั้งแรกที่ทัวร์นาเมนต์ถูกขยายจำนวนทีมจาก 32 เป็น 48 ทีม ทำให้แต่ละทวีปได้โควตาเพิ่มขึ้น และเปิดโอกาสให้ชาติระดับกลางในภูมิภาคต่าง ๆ มีโอกาสสัมผัสฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมากขึ้น

ปัจจุบันมีแล้วกว่า 22 ทีม ที่การันตีผ่านเข้ารอบสุดท้าย โดยมีทั้งทีมยักษ์ใหญ่คุ้นหน้า เช่น อาร์เจนตินา, บราซิล, ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส รวมถึงชาติที่สร้างประวัติศาสตร์ใหม่อย่าง จอร์แดน และ อุซเบกิสถาน ที่ได้เข้าร่วมฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก และนี่คือ 5 ทีมชาติที่ได้ตั๋วบอลโลก 2026 รอบสุดท้าย ผ่านเข้ามาล่าสุด

ซาอุดิอาระเบียเฉือนเข้ารอบ ฉลองฟุตบอลโลกสมัยที่ 7

ทีมชาติ ซาอุดิอาระเบีย ยังคงรักษามาตรฐานของชาติชั้นนำแห่งเอเชียไว้ได้ หลังจากเสมอกับ อิรัก แบบไร้สกอร์ 0-0 ในนัดสุดท้ายของรอบคัดเลือก รอบที่ 4 กลุ่มบี ซึ่งมีเพียง 3 ทีมในกลุ่ม ได้แก่ ซาอุฯ, อิรัก และอินโดนีเซีย

แม้ผลการแข่งขันในเกมนี้จะจบลงแบบแบ่งแต้ม แต่เมื่อรวมผลจากสองนัดก่อนหน้า ซาอุฯ และอิรัก ต่างเอาชนะอินโดนีเซียได้ทั้งคู่ ทำให้ทั้งสองทีมมีคะแนนเท่ากันที่ 4 คะแนน พร้อมผลต่างประตูได้เสีย +1 เท่ากัน แต่ทีมจากตะวันออกกลางได้เปรียบในเรื่อง “จำนวนประตูได้” ซึ่งซาอุฯ ยิงรวมได้ 3 ประตู มากกว่าอิรักที่ทำได้เพียง 2 ลูก

ตามกติกาการจัดอันดับ ซาอุดิอาระเบียจึงคว้าสิทธิ์ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2026 ได้สำเร็จ ถือเป็นการเข้าร่วมรอบสุดท้าย สมัยที่ 7 ในประวัติศาสตร์ และเป็นการผ่านเข้ารอบแบบต่อเนื่องจากครั้งก่อน (ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์) อีกด้วย

การผ่านเข้ารอบครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึง “เสถียรภาพ” ของฟุตบอลซาอุฯ ที่อยู่ในช่วงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับทีมชาติและสโมสร โดยเฉพาะหลังลีกในประเทศได้รับการยกระดับจนกลายเป็นศูนย์รวมแข้งระดับโลก เช่น คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า และซาดิโอ มาเน่ ซึ่งช่วยส่งผลโดยอ้อมต่อพัฒนาการของทีมชาติชุดใหญ่

กาตาร์เฉือนยูเออีสุดระทึก 2-1 จารึกหน้าประวัติศาสตร์สมัยที่ 2

อีกหนึ่งชาติจากตะวันออกกลางที่การันตีตั๋วฟุตบอลโลกคือ กาตาร์ เจ้าของแชมป์เอเชียนคัพ 2023 ซึ่งโชว์ความแกร่งในเกมสำคัญ เอาชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ไปแบบหวุดหวิด 2-1 แม้จะเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนในช่วงท้ายเกม

ชัยชนะดังกล่าวส่งผลให้ “เดอะ มารูนส์” การันตีการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2026 ได้สำเร็จ นับเป็นการเข้าร่วม สมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ต่อจากฟุตบอลโลก 2022 ที่พวกเขาได้สิทธิ์เข้าร่วมในฐานะเจ้าภาพ

ครั้งนี้ถือเป็นการผ่านเข้ารอบด้วย “ความสามารถของทีมล้วน ๆ” และยืนยันว่ากาตาร์กำลังพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับนานาชาติ ระบบทีมเวิร์กและแท็กติกที่มีความยืดหยุ่นสูงภายใต้กุนซือชาวโปรตุเกส ทำให้พวกเขาเริ่มถูกมองว่าเป็น “ทีมชั้นนำแห่งเอเชียยุคใหม่” ที่พร้อมท้าทายทีมใหญ่อย่างญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ได้อย่างสูสี

 ไอวอรี่โคสต์คืนสู่เวทีโลก แชมป์กลุ่ม เอฟ โซนแอฟริกา

ในทวีปแอฟริกา การแข่งขันรอบคัดเลือกก็เข้มข้นไม่แพ้กัน โดยในกลุ่มเอฟ ทีมชาติ ไอวอรี่โคสต์ หรือ “ช้างดำ” โชว์ฟอร์มสมราคา ถล่ม เคนยา 3-0 คว้าแชมป์กลุ่มไปครองเหนือ กาบอง ที่มีคะแนนตามหลังเพียง 1 แต้ม

ชัยชนะในนัดสุดท้ายทำให้พวกเขากลับมาผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้อีกครั้งในรอบ 12 ปีเต็ม นับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ได้ร่วมศึกในปี 2014 ที่บราซิล

นี่คือการเข้าร่วมฟุตบอลโลก สมัยที่ 4 ของไอวอรี่โคสต์ ซึ่งถือเป็นการยืนยันว่าพวกเขากลับมาอยู่ในจุดที่สมควรอีกครั้ง ภายหลังจากการสร้างทีมใหม่โดยใช้โครงหลักจากนักเตะชุดแชมป์แอฟริกา เนชั่นส์ คัพ 2023 เช่น เซบาสเตียน อัลแลร์, ฟรองค์ เคสซี่ และวิลฟรีด ซาฮา

saudi-arabia-national-team

ทีมชาติซาอุดีอาระเบีย

 เซเนกัลโชว์พลังเกมรุกถล่มเมาริตาเนีย 4-0 – เข้ารอบสมัยที่ 4

อีกหนึ่งทีมจากแอฟริกาที่คว้าตั๋วสู่เวทีโลกคือ เซเนกัล ภายใต้การคุมทีมของ อาลิอู ซิสเซ่ ที่ยังคงรักษามาตรฐานระดับสูงอย่างต่อเนื่อง หลังถล่ม เมาริตาเนีย 4-0 คว้าแชมป์กลุ่มบีเหนือ ดีอาร์ คองโก ไปเพียง 2 คะแนน

ชัยชนะดังกล่าวการันตีการเข้าร่วมฟุตบอลโลก สมัยที่ 4 ของพวกเขา และเป็นการเข้าร่วมต่อเนื่องจากปี 2018 และ 2022 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและเสถียรภาพในโครงสร้างฟุตบอลของชาติ

ปัจจุบัน เซเนกัลมีขุมกำลังที่ผสมผสานระหว่างรุ่นเก๋าและดาวรุ่งอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น ซาดิโอ มาเน่, คาลิดู คูลิบาลี่ และนิโกลัส แจ็คสัน ซึ่งกลายเป็นหัวใจสำคัญของทีมยุคใหม่ที่พร้อมท้าทายทีมจากยุโรปได้เต็มที่ในรอบสุดท้ายปีหน้า

 อังกฤษแรงไม่หยุด – ชนะรวด 6 เกมรวด การันตีเข้ารอบก่อนเวลา

ฝั่งยุโรป ทีมชาติ อังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ทูเคิล ยังเดินหน้ารักษาความยอดเยี่ยมในรอบคัดเลือกกลุ่มเค หลังบุกถล่ม ลัตเวีย 5-0 เก็บชัยชนะครบทั้ง 6 นัด มี 18 คะแนนเต็ม และยังไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว

ผลงานระดับนี้ทำให้ “สิงโตคำราม” การันตีแชมป์กลุ่มและคว้าสิทธิ์ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2026 เรียบร้อย แม้จะเหลือโปรแกรมแข่งขันอีก 2 นัดก็ตาม โดยปัจจุบันทิ้งห่างทีมอันดับสองอย่าง แอลเบเนีย ถึง 7 คะแนน

นี่จะเป็นการเข้าร่วมฟุตบอลโลก สมัยที่ 8 ของอังกฤษ และถือเป็นหนึ่งในเส้นทางคัดเลือกที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมชาติ ด้วยผลงาน “คลีนชีตทุกนัด” ซึ่งสะท้อนถึงความสมดุลในแนวรับและพลังเกมรุกที่เฉียบคมของทีมชุดนี้ที่มีทั้งจู๊ด เบลลิงแฮม, ฟิล โฟเด้น, บูกาโย่ ซาก้า และแฮร์รี่ เคน

บทสรุป

สรุปผลบอล 5 ทีมชาติที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2026  หลังจบเกมแข่งขันเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย เสมออิรัก 0-0 ผ่านเข้ารอบด้วยผลประตูได้มากกว่า รวมเป็นการเข้าร่วมฟุตบอลโลกสมัยที่ 7  กาตาร์ ชนะยูเออี 2-1 แม้เหลือ 10 คน ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 2  ไอวอรี่โคสต์ ถล่มเคนยา 3-0 คว้าแชมป์กลุ่มเอฟ โซนแอฟริกา เข้ารอบเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี  เซเนกัล คว้าแชมป์กลุ่มบี โซนแอฟริกา หลังชนะเมาริตาเนีย 4-0 การันตีบอลโลกสมัยที่ 4 อังกฤษ ถล่มลัตเวีย 5-0 คว้าชัยรวด 6 นัด ผ่านเข้ารอบเป็นสมัยที่ 8 พร้อมสถิติไม่เสียประตู