ทีมสาลิกาดงเลี่ยมทอง
ถือว่าเป็นข่าวช็อควงการลูกหนังทั่วเกาะอังกฤษ และทั่วโลก หลังการเข้ามาเทคโอเวอร์ สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (Newcastle United) สโมสรฟุตบอลที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในเกาะอังกฤษ ของกลุ่มทุนจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ในชื่อว่า Public Investment Fund (ซาอุดิอาระเบีย พับลิค อินเวสต์เม้นต์ฟันด์) หรือ (PFI) พีไอเอฟ ในวงเงินมหาศาลถึง 305 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 13,000 ล้านบาท
ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มทุนนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม เจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งประเทศซาอุดิอาระเบีย ทำให้บรรดาสาวกของ สโมรนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด มีความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสโมสรฟุตบอลที่ตนรัก ได้กลับไปมีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ซึ่งในอดีตเคยเกือบทำได้สำเร็จมาแล้วในยุคที่มี เควิน คีแกน เป็นผู้จัดการทีมซึ่งทำทีมได้มันและเอนเตอร์เทนสุดๆ แต่ในปีนั้นกลับโดนทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของเซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน มาแซงช่วงท้ายฤดูกาลแย่งแชมป์ไปอย่างน่าเจ็บใจ และหลังจากฤดูกาลอันน่าเจ็บแสบนั้น ทีมสาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ก็ไม่เคยทำทีมเฉียดเข้าใกล้ตำแหน่งนั้นได้อีกเลย หนำซ้ำบางฤดูกาลตกต่ำถึงขั้นตกชั้น ลงไปเล่นในระดับแชมป์เปี้ยนชิปก็เคยมี
การเข้ามาเทคโอเวอร์ของกลุ่มทุน ซาอุดิอาระเบีย พับลิค อินเวสต์เม้นต์ฟันด์ ในครั้งนี้ จุดประกายความฝันครั้งยิ่งใหญ่ให้กับทีมสาลิกาดง อย่างแน่นอน เพราะถ้ามีการจัดอันดับ ทีมที่มีเจ้าของสโมสรรวยเป็นอันดับหนึ่งของโลก ณ นาทีนี้ ก็ต้องยกให้ เจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน อย่างไม่ต้องสงสัยเพราะเจ้าชายท่านนี้นั้น มีทรัพย์สมบัติส่วนพระองค์ถึง 320,000 ล้านปอนด์หรือเทียบเท่า 14 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงทรัพย์สมบัติของราชวงค์ที่ยังมีมากกว่านั้นอีกหลายเท่า ครั้งหนึ่งเจ้าชายท่านเคยส่งคนติดต่อทาบทาม ขอซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยเม็ดเงินมหาศาลเช่นกัน แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากตระกูลเกลเซอร์ ในตอนนั้นตระกูลเกลเซอร์ตั้งมูลค่า สโมสร ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไว้สูงมากเกินไป ประมาณเกือบ 100,000 ล้านบาท ทำให้เจ้าชายเบนเข็มไปติดต่อหาซื้อสโมสรฟุตบอลอื่น จนในที่สุดก็มาลงเอยที่สโมสร สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมที่มีกองเชียร์หนุนหลังนามว่า ทูน อาร์มี่ กลุ่มที่มีความจงรักภักดีต่อสโมสรนี้มากๆ แม้กระทั่งภาพยนตร์อย่างเรื่อง Green Street Hooligans จะนำเรื่องของกองเชียร์นิวคาสเซิ่ลมาเป็นตัวดำเนินเรื่อง
ถือว่าเป็นการสิ้นสุด 14 ปีแห่งการครอบครอง สโมสรนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ของ ไมค์ แอชลี่ย์ เจ้าของทีมคนเก่าที่บรรดาเหล่า สาวก “ทูน อาร์มี่” ค่อนข้างจะไม่ชื่นชอบและมีความเกลียดชัง จากการบริหารสโมสรด้วยความตระหนี่ถี่เหนียว ไม่กล้าลงทุนซื้อตัวนักฟุตบอลระดับแถวหน้าของโลกเข้ามาสู่ทีมบ้าง เพื่อยกระดับชั้นสโมสรให้ไปอยู่แถวหน้า
ไมค์ แอชลีย์ ได้รับการจงเกลียดจงชังจากแฟนบอลนิวคาสเซิลมาโดยตลอด
หลังจากที่สโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของกลุ่มทุนจาก ดูไบ ที่ได้รับตำแหน่ง เป็นสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดมาอยู่หลายปีมากๆ ตั้งแต่เทคโอเวอร์มา ก็คงต้องมาดูกันครับว่า หลังจากนี้ต่อไปสโมสรนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดในโลกตอนนี้จะมีการพัฒนา การซื้อตัวนักเตะชั้นแนวหน้าของโลก เข้ามาอยู่ในทีมได้หรือไม่อย่างไร และจะมีการปรับเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมคนใหม่เป็นใคร จะมีแผนการใช้เงินหรือพัฒนาสโมสรเพื่อไม่ให้ผิดกฎ เพดานทางด้านการเงินของ พรีเมียร์ลีก ได้อย่างไร คิดว่าอีกไม่นาน บรรดาแฟนๆฟุตบอลพรีเมียร์ลีก คงจะได้เห็นทีมสาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ขึ้นไปโลดแล่นอยู่แถวบนๆของตาราง ก็จะทำให้ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกมีอะไรให้น่าติดตามมากยิ่งขึ้น
